1.1) จงยกตัวอย่างของผลกระทบของซอฟแวร์
ทั้งด้านบวกและด้านลบที่มีผลต่อสังคม
-ผลในทางบวก
1.ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมให้มี ประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มนุษย์มีเวลาว่างเพื่อใช้ ในทางที่เกิดประโยชน์มากขึ้น มีเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ให้ติดต่อกันได้สะดวก มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความ สะดวกที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เช่น ลิฟต์ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
-ผลในทางบวก
1.ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมให้มี ประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มนุษย์มีเวลาว่างเพื่อใช้ ในทางที่เกิดประโยชน์มากขึ้น มีเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ให้ติดต่อกันได้สะดวก มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความ สะดวกที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เช่น ลิฟต์ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
2.ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
มีคุณภาพมีมาตรฐานซึ่งในปัจจุบันใช้เครื่องจักรทำงานอย่างอัตโนมัติ
สามารถทำงานได้ตลอด 24ชั่วโมง สินค้าที่ได้มีคุณภาพและปริมาณพอเพียงกับความต้องการของผู้บริโภค
ปัจจุบันมีความ พยายามที่จะสร้างหุ่นยนต์ให้เข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
การผลิตรถยนต์
3.ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร เช่น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ช่วยให้งานค้น
คว้าวิจัยในห้องปฏิบัติการวิจัยต่าง ๆ
มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นแล้วเก็บไว้ในห้องสมุดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว งานวิจัยต่าง
ๆ มีความก้าวหน้า ยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่อย่างมาก
4.ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นด้านการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก
เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ล้วนแล้ว แต่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการดำเนินการ
ช่วยในการแปลผล มีเครื่อง ตรวจหัวใจที่ทันสมัย เครื่องเอกซเรย์ภาคตัดขวางที่
สามารถตรวจดูอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่าง ละเอียด
มีเครื่องมือตรวจค้นหาโรคที่ทันสมัย ระบบการรักษาพยาบาลจากที่ห่างไกล
เครื่องมือช่วยคนพิการต่าง ๆ เช่น การสร้างแขนเทียม ขาเทียมเป็นต้น
รวมทั้งการผลิตยา และวัคซีนสมัยใหม่ด้วย
5.ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
คอมพิวเตอร์มีจุดเด่นที่สามารถทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำ สามารถเก็บข้อมูลต่าง
ๆ ได้มาก การแก้ปัญหาที่ ซับซ้อนบางอย่างกระทำได้ดี และรวดเร็ว
การจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มนุษย์หาทางศึกษาหรือแก้ไขปัญหาเช่น การจำลอง
สภาวะของสิ่งแวดล้อม การจำลองระบบมลภาวะ จำลองการไหลของของเหลว การควบ
คุมระบบการจราจร เป็นต้น คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องมือ ที่ช่วยในการเรียนรู้ของมนุษย์ได้ดีเชื่อมโยงติดต่อทางอินเทอร์เน็ต
สามารถเรียก ค้นข้อมูลข่าวสารผ่านทางเครือข่าย สามารถเรียนรู้การใช้
คอมพิวเตอร์หรือเรียนจากที่ห่างไกลได้
ถือเป็นหนทางที่ทำให้เกิดสติปัญญาอย่างแท้จริง
6.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เทคโนโลยีจำเป็นต่ออุตสาหกรรม
กิจการค้า ธุรกิจต่าง ๆ กิจการทางด้านธนาคาร ช่วยส่งเสริมงานทางด้านเศรษฐกิจ
ทำให้กระแส เงินหมุนเวียนได้อย่างกว้างขวาง ผู้ผลิตในสายอุตสาหกรรม
จะผลิตสินค้าได้มาก ลดต้นทุน ผู้บริโภคก็มีกำลังในการจับ จ่ายใช้สอยมาก
ธุรกิจโดยรวมจำเป็นต้องอาศัยการแลก เปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
มีการสื่อสารเกี่ยวข้องกัน เกิด ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
7.ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
การสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ช่วยย่นย่อโลกให้เล็กลง โลกมีสภาพไร้พรมแดน
มีการเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกันมากขึ้น เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
ทำให้ลดปัญหาใน เรื่องความขัดแย้ง สังคมไร้พรมแดนทำให้มี
ความเป็นอยู่แบบรวมกลุ่มประเทศมากขึ้น
8.ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกระจายข่าวสาร เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของกระจายระบบ
ประชาธิปไตย แม้แต่การเลือกตั้งก็มีการใช้คอมพิวเตอร์รวมผล คะแนน
ใช้สื่อโทรทัศน์วิทยุแจ้งผลการนับคะแนนที่ทำให้ทราบ ผลได้รวดเร็ว
-ผลในทางลบ
1.ทำให้เกิดอาชญากรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้
โจรผู้ร้ายใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนการปล้น วางแผนการ โจรกรรม
มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลข บัญชีด้วยคอมพิวเตอร์
การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิดปัญหาหลาย อย่าง เช่น
การแก้ไขระดับคะแนนของนักเรียน การแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาล
เพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิด ซึ่งเป็นการทำร้ายหรือฆาตกรรมดังที่เห็นใน
ภาพยนตร์
2.ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว
การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมที่มี ลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว
ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดน้อยลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า
มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาก
3.ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ผลกระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่าคอมพิวเตอร์อาจทำให้คนตกงานมากขึ้น
มีการใช้งานหุ่นยนต์ มาใช้งานมากขึ้น มีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้น
ทำให้ผู้ใช้ แรงงานอาจว่างงานมากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้จะเกิดกับบุคคล
บางกลุ่มเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลเหล่านั้นสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี
หรือมีการพัฒนา ให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น
4.ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัย เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสาร
ทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้า
และบริการ ต่าง ๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่อง มาจากเหตุอุบัติภัย เช่น
ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือ ด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายย่อมทำ
ให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
5.ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมากขึ้น
ประเทศที่เป็นต้นตำรับของเทคโนโลยี สามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใช้
ในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูง ทำให้หมิ่นเหม่ต่อสงครามที่มี
การทำลายสูงเกิดขึ้น
6.ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด การนำมาใช้
ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญดังเช่น
การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าว
สารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ ผู้อื่นเสียหาย
นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่ง
จดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งจริยธรรมการ
ใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันมาก
1.2) จงอธิบายเกี่ยวกับ Software Crisis
-Software Crisis คือ วิกฤตการณ์ซอฟต์แวร์
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์มากมายพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาได้อย่างไม่มีคุณภาพ
การผลิตที่ล่่าช้า ความซับซ้อนของซอฟต์แวร์ มีปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย
มีข้อผิดพลาดมากมาย โดยมีการแก้ไขโดยการนำหลักการของ วิศวกรรมซอฟแวร์ เข้ามาประยุกต์กับการผลิตซอฟต์แวร์การอบรมและให้ความรู้และจรรยาบรรณของวิศวกรรมซอฟต์แวร์ จึงทำให้เกิดศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ขึ้นมา
1.3)จงยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่นักศึกษาว่าเป็นซอฟตแวร์ที่มีคุณภาพ แล้วนำมาวิเคาะห์หาคุณลักษณะของซอฟต์แวร์ที่ดี ว่าตรงตามคุณลักษณะใดบ้าง
1.3)จงยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่นักศึกษาว่าเป็นซอฟตแวร์ที่มีคุณภาพ แล้วนำมาวิเคาะห์หาคุณลักษณะของซอฟต์แวร์ที่ดี ว่าตรงตามคุณลักษณะใดบ้าง
-Microsoft Office
1.ด้านความน่าเชื่อถือ(Dependability) ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดให้สมบูรณ์
การอัพเดทโปรแกรม รายงานข้อผิดพลาด เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสบายใจ ความผิดพลาดของกระบวนการถูกหลีกเลี่ยงก่อนที่จะส่งผลต่อความผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์
2.ด้านประสิทธิภาพ(Efficiency) ซึ่งการทำงานที่มีมาตรฐานการทำงานที่สูงและมีประสิทธิภาพ
ความผิดพลาดน้อยมาก การตอบสนอง และสิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยมาก คุ้มค่า
3.ด้านการใช้งานที่ง่ายต่อผู้ใช้(Usability) ซึ่งการใช้งานที่ง่ายและจดจำง่าย
รูปแบบหน้าจอไม่ซับซ้อนจนเกินไป เข้าใจได้ง่าย สะดวก และเรียนรู้ได้เร็ว
4.ด้านการบำรุงรักษา(Maintainability) การปรับปรุงการอัพเกรดเวอร์ชั่น
ไฟล์ข้อมูลเก่ายังสามารถใช้ในเวอร์ชั่รใหม่ๆได้ ไม่ส่งผลต่อข้อมูลที่มีอยู่เดิม
5.ความแข็งแรง(Robustness) กระบวนการสามารถทำงานต่อได้แม้นว่ามีปัญหาที่ไม่คาดการณ์เกิดขึ้น
1.4) นักศึกษาคิดว่า "นักวิศวกรซอฟต์แวร์" ควรมีทักษะความรู้
ความเชี่ยวชาญในด้านใดบ้าง จงอธิบาย
1.ต้องมีความรู้
ความสามารถในการเขียนและอ่านแบบจำลองของโครงสร้างโปรแกรม
มีทักษะการเขียนโปรแกรมทางด้านคอมพิวเตอร์
2.การรักษาความลับของลูกค้าและนายจ้าง ความซื่อสัตย์สุจริต
3.ไม่โอ้อวดความสามารถที่เกินจริง และทำงานในด้านที่ตนถนัดมากที่สุด
4.ไม่ควรละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิทางปัญญาของนายจ้างและลูกค้า
รวมทั้งของผู้อื่น มาเป็นของตน การมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมซอฟต์แวร์
5.ไม่ควรใช้ความถนัดทางด้านคอมพิวเตอร์ผิดวัตถุประสงค์
หาประโยชน์ใส่ตนเองในทางที่ผิด
Summery Chapter 1
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ คือ
การวางฐานโดยใช้หลักการทางวิศวกรรมเพื่อให้ซอฟต์แวร์มีความน่าเชื่อถือ
และสมารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราคาต่ำที่สุด
กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ มี 4 Process
1.การกำหนดความต้องการ(Specification) การกำหนดความต้องการที่ชัดเจน
โดยมีเงื่อนไข ผลิตเพื่อใคร และใช้อย่างไร
2.การพัฒนาระบบ(Development) การพัฒนาระะบบเพื่อให้ใช้งานทีมีประสิทธิภาพขึ้น
โดยการออกแบบก่อนการพัฒนา
3.การตรวสอบ(Validation) การทดสอบเพื่อให้ซอฟต์แวร์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่
4.การปรับปรุงระบบ(Evolution) การปรับเปลี่ยนเพื่อให้ซอฟแวร์มีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น
และสามารถเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยได้ดีขึ้น
Software Process Model แบบจำลองการพัฒนาซอฟต์แวร์
1.แบบที่มีมุมมองลักษณะเฉพาะทาง อาจมีการแสดงเป็นรูปภาพ
2.แบบที่มีมุมมองกระบวนการทำงาน มีตัวอย่าง ดังนี้
-Work Flow ลำดับความสำคัญของขั้นตอนการทำงาน เช่น Flowchart
, Microsoft Visio
-Data Flow ลำดับความสำคัญของข้อมูล เช่น Data Flow
Diagram
-Role/Action ลำดับความสำคัญของใครทำอะไร แบ่งหน้าที่ User
Case Diagram
3.แบบจำลองทั่วๆไป มีตัวอย่างดังนี้
-Waterfall แบบจำลองแบบน้ำตก/Evolutionary
Development แบบพัฒนาระบบไปเรื่อยๆ
-Formal Transformation แบบทางการ มีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจน/reusable
Object Model แบบแยกระบบการทำงานย่อยๆ แล้วค่อยมารวมกัน
Computer-Aided Software Engineering(CASE) ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อมาสร้างซอฟต์แวร์ด้วยกันเอง
-Upper-CASE การพัฒนาที่รองรับในช่วงแรกๆ เช่น การเก็บความต้องการ
การออกแบบ
-Lower-CASE การพัฒนาโดยการเขียนโปรแกรม การทดสอบคววามผิดพลาด
คุณลักษณะที่ดีของซอฟต์แวร์
1.Maintainability ความสามารถในการบำรุงรักษา ปรับเปลี่ยนเหมาะสม
เมื่อเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลต่อระบบข้างเคียง ข้อมูลต่างๆ
2..Dependability ความสามารถในเรื่องความน่าเชื่อถือ
ผ่านการตรวจสอบการทำงานมีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ3.Efficiency ความสามารถในเรื่องประสิทธิภาพ
การประหยัดสิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยที่สุด คุ้มค่า
4.Usability ความสามารถในเรื่องการใช้งานของผู้ใช้ ให้เข้าใจง่าย เสริมความรู้เร็ว ความสะดวก
ข้อกำหนดของผู้เชี่ยวชาญของวิศวกรซอฟต์แวร์
1.Confidentially การรักษาความลับของลูกค้าและนายจ้าง ความซื่อสัตย์สุจริต
4.Usability ความสามารถในเรื่องการใช้งานของผู้ใช้ ให้เข้าใจง่าย เสริมความรู้เร็ว ความสะดวก
ข้อกำหนดของผู้เชี่ยวชาญของวิศวกรซอฟต์แวร์
1.Confidentially การรักษาความลับของลูกค้าและนายจ้าง ความซื่อสัตย์สุจริต
2.Competence การไม่โอ้อวดความสามารถที่เกินจริง
และทำงานในด้านที่ตนถนัดมากที่สุด
3.Intellectual การไม่ควรละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิทางปัญญาของนายจ้างและลูกค้า
รวมทั้งของผู้อื่น มาเป็นของตน การมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมซอฟต์แวร์
4.Computer Misuse ไม่ควรใช้ความถนัดทางด้านคอมพิวเตอร์ผิดวัตถุประสงค์
หาประโยชน์ใส่ตนเองในทางที่ผิด
หน่วยงานที่กำหนดประมวลจริยธรรม Code of Ethics คือ ACM/IEEE ให้กับวิศวกรรมซอฟต์แวร์ มีข้กำหนด 8 ข้อดังนี้
1.PUBLIC วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องปฎิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมด้วย
2.CLIENT AND EMPLOYER วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและนายจ้าง
3.PRODUCT วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องผลิตผลงานตามหลักสูงสุดของหลักวิชาการ
4.JUDGMENT วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องตัดสินใจอย่างอิสระ เป็นตัวของตัวของตัวเอง โดยยึดมั่นในหลักวิชาการ
5.MANAGEMENT วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องเผยแพร่การรักษาจริยธรรมนี้ ในฐานะผู้บริหาร หรือหัวหน้า
6.PROFESSION วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องยึดมั่นในคุณธรรม และรักษาชื่อเสียงในวิชาชีพโดยคำนึงถึงผลปรโยชน์ส่วนรวม
7.COLLEAGUES วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องให้ความเป็นธรรม และสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน
8.SELF วิศวกรรมซอฟต์แวร์จะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
อุปสรรคการักษาประมวลจริยธรรรม
1.ขัดแย้งกับนโยบายยหลักการของผู้บริหารสูงสุด
2.นายจ้างเป็นปฎิบัติอย่างไร้จริยธรรม
3.เข้าร่วมในการสร้างอาวุธทำลายอย่างรุนแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น